วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ม็อบหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี บุกรื้อแนวกระสอบทรายยาว 300 ม.

 

ม็อบหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี บุกรื้อแนวกระสอบทรายยาว 300 ม.

ม็อบหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปีราว 500 คนสุดทน บุกรื้อแนวกระสอบทรายหน้าตลาดรังสิตระยะทางยาวกว่า 300 เมตรหลังต้องอยู่ในสภาพน้ำท่วมขังนานนับเดือน ขณะที่รองนายกเทศมนตรีฯ รุดเจรจาทำความเข้าใจก่อนแยกย้าย...

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ได้มีกลุ่มชาวบ้านจากหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ประมาณ 400-500 คน ได้รวมตัวกันโดยมี นายยงยุทธ หาญเกียรติกล้า และนายสุชาติ ชัยมงคลภักดิ์ แกนนำตัวแทนชุมชนด้านหลังหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่มีผู้อยู่อาศัยจำนวน 3,500 ครัวเรือน และมีชาวบ้านอีกราว 100 คน ผู้ได้รับความเดือดร้อน จากแนวคันกั้นกระสอบทราย ฝั่งตลาดรังสิต ตลาดติละพรพัฒน์ ตลาดสุชาติ รังสิตทั้ง 3 ตลาดลุยน้ำระดับความสูง 1 เมตร ออกมาจากหมู่บ้านรวมตัวกันบริเวณตรงข้ามที่ทำการเทศบาลนครรังสิต พร้อมชูป้ายข้อความ "ในหมู่บ้าน 200 ปี ยังท่วม 1.20 เมตร น้ำเน่า น้ำท่วมมา 1 เดือน 1 สัปดาห์แล้ว" และ "200 ปี ทุ่งหมาเมิน"


ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ใช้โทรโข่งกล่าวโจมตี การบริหารจัดการกู้น้ำของเทศบาลนครรังสิต และกรมชลประทาน ที่นำแนวกระสอบทรายมากั้น เฉพาะฝั่งตะวันตกของถนนรังสิต-ปทุมธานี ส่งผลให้ฝั่งตะวันออกของถนน และชุมชนหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี มีระดับน้ำท่วมขังสูงกว่า 30 เซนติเมตร โดยขอให้ผู้บริหารเทศบาล หรือเจ้าหน้าที่ออกมาทำความตกลงตามข้อเรียกร้องขอให้ทำการรื้อแนวกระสอบทรายออกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนถึงเวลา 11.00 น. โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าทำการเจรจา กลุ่มชาวบ้านจึงพากันเดินข้ามฝั่งและทำการรื้อแนวกระสอบทรายตั้งแต่ปากซอย 7 ปากทางเข้า สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ถึงซอย 1 หน้าตลาดรังสิต ระยะทางยาวกว่า 300 เมตร โดยไม่มีหน่วยงานใดขัดขวาง กระทั่งระดับน้ำบนถนนรังสิต-ปทุมธานี เหนือแนวกระสอบทราย ได้ทะลักไหลเข้าทั้ง 3 ตลาดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระดับน้ำบนถนน และในตลาดเสมอกัน


นายสุชาติ กล่าวว่า น้ำท่วมหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว พวกเราไม่เคยเรียกร้องใดๆ แต่พอระดับน้ำเริ่มยุบแล้ว ทาง กทม.ได้ทำการปิดกั้นน้ำไม่ให้เข้า กทม.น้ำที่อยู่ในหมู่บ้าน จึงเอ่อขึ้น และแทนที่จะแก้ทั้งระบบวงกว้าง กลับมาทำเพียงกั้นแนวกระสอบทรายให้กับ 3 ตลาด โดยไม่มีการสอบถาม ซึ่งเราได้ส่งตัวแทนไปขอนัดพบนายกเทศมนตรี หรือตัวแทน วันนี้เมื่อเวลา 11.00 น. มาคุยกันว่าจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไรแต่ก็ไม่มา พวกเราจึงอดทนไม่ไหวทำการรื้อแนวกระสอบทรายออก เพราะพวกเราเดือดร้อนกันมานาน ถุงยังชีพนั้นไม่ต้องการ อยากมีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนคนกรุงเทพฯ 

ต่อมา เมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน นายเดชา กลิ่นกุสุม รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครรังสิต กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี บางรายที่ไม่เข้าใจ และได้เข้ารื้อแนวกระสอบทรายออก จึงได้เชิญแกนนำร่วมประชุมทำความเข้าใจในแผนการกู้ สถานการณ์น้ำที่เริ่มจะลดลง โดยข้อเท็จจริงได้ดำเนินการเป็นวงกว้างทั้ง 2 ฝั่งชุมชน โดยใช้รถแบ็กโฮปิดล้อมคันดิน ตั้งแต่ริมถนนพหลโยธินขาออก ซอยโรงงานโฮย่าเลนส์ อ้อมขึ้นไปด้านหลังชุมชน 200 ปี บริเวณเมน 3-4 เป็นคันดินที่ล้อมยากจึงขอเวลา 3-4 วันซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะลดลงวันละ 3 เซนติเมตร


นายเดชา กล่าวอีกว่า ตามข้อมูลสถิติของกรมอุทกศาสตร์ ซึ่งระดับน้ำจะหนุนสูงสุดวันที่ 31 พ.ย. นี้ ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังต่างระดับสูงกว่าน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ประมาณ 27 ซม. และยังมีน้ำที่ไหลบ่าข้ามทางรถไฟมาตั้งแต่รังสิตถึงนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เป็นระยะทางยาว 9 กิโลเมตร ซึ่งบางตำแหน่งต่างระดับ 14 ซม. โดยน้ำจากภายในพื้นที่เทศบาลนครรังสิต ก็มีระดับเดียวกับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ หากตามแผนเดิม เมื่อกั้นแนวกระสอบทรายเสร็จทั้งหมด ระดับน้ำเจ้าพระยาก็จะครบรอบระดับน้ำทะเลลดลง ไม่ข้ามทางรถไฟมาอีก เราก็ทำการเร่งระดมสูบออก พื้นที่ก็จะแห้งพร้อมกัน ชาวบ้านไม่เข้าใจว่าทำไมเราไม่ทำให้แห้งภายใน 10 วัน เพราะว่าพอสูบออกทางประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ น้ำก็ยังไหลวนข้ามทางรถไฟมาอีก ซึ่งจากนี้ไปอีก 7 วัน พอถึงวันที่ 1 ธ.ค.ไปแล้วน้ำทะเลไม่หนุน ระดับน้ำก็ลงไปเอง 

จากนั้นชาวบ้านได้แยกย้ายกันกลับไปพร้อมทั้งขอให้ทางเทศบาลนครรังสิต ตรวจสอบเครื่องสูบน้ำให้ทำงานตามที่เคยเจรจากันไว้ด้วย.

 

โดย: ทีมข่าวภูมิภาค

24 พฤศจิกายน 2554, 17:36 น.

http://m.thairath.co.th/content/region/218948

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น