ดังนั้นเนื่องจาก นพ.วิชัย เป็นกรรมการของสถาบันพิพิธภัณฑ์สุขภาพไทยที่บังเอิญผมได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการอยู่ด้วย ผมจึงคิดว่า ตัวเองควรแสดงออกทางการเมืองของตนต่อบทบาทดังกล่าวของ นพ.วิชัย รวมถึงคนอื่นๆ
ที่ผมไม่ใคร่ขอเอ่ยนามถึง ด้วยการขอลาออกจากการเป็นกรรมการที่ตัวเองเป็นอยู่ เพื่อคัดค้านต่อการกระทำ
ดังกล่าวตามอัตภาพที่ผมสามารถทำได้ และเพื่อลดความรู้สึกอับอายตัวเองที่ต้องทำงานร่วมกับคนเหล่านี้
ที่คิดว่าตนเองมีคุณธรรมวิเศษสูงส่งกว่าผู้อื่นๆ สามารถใช้ตนเองตัดสินผู้อื่นได้ตลอดเวลา
เพราะคิดว่าผู้ที่เป็นแพทย์คือเทวดาที่ล่วงรู้ทุกเรื่องและอยู่เหนือมนุษย์ทั่วไป
ทั้งๆ ที่ความอัปยศคดโกงและความไร้มนุษยธรรมต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในวงการแพทย์อยู่ตลอดเวลา
ดังที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาอยู่เนืองๆ ซึ่งแม้ว่าจะอ้างว่าเป็นเรื่องของนักการเมือง แต่ส่วนมากก็มักเกี่ยวข้องกับบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ที่มักอวดตนว่าเป็นเทวดาผู้มีคุณธรรมวิเศษทั้งนั้น
ผมคิดว่า หากมีการตรวจสอบเรื่องแบบนี้ นพ.วิชัย ควรจะหันมาตรวจสอบเรื่องการใช้เงินของหน่วยงานบางแห่ง ที่นำเอาเงินภาษีของประชาชนมาแจกจ่ายให้แก่เครือข่ายของตน ปีๆ หนึ่งหลายพันล้าน
มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น