ท่านสามารถ ร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนการทำงาน ได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขา พระปิ่นเกล้า เลขที่ 031-0-03432-9 ธนาคารกรุงเทพ สาขามีนบุรี เลขที่ 145-5-24762-5 ธนาคารกสิกรไทย สาขา ปิ่นเกล้า เลขที่ 706-2-33411-2 ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาบิ๊กซี ติวานนท์(SICOTHBK) เลขที่ 382-217647-5 ทุกบัญชี ชื่อบัญชี "สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน" สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 086 628 2817 คุณอัจฉรา สรวารี
วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ ห้องเสวนา ชั้น ๖ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารบี (ด้านทิศใต้) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
แต่ในแวดวงผู้ที่ทำงานด้าน เด็ก เห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและยกเป็นกรณีตัวอย่างอีกกรณีหนึ่งที่ สะท้อนให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างความกตัญญูและเรื่องของสิทธิเด็กที่ต้อง ได้รับการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครอง เนื่องจากการชกมวยเป็นอาชีพส่งผลกระทบในหลายประเด็น
ได้แก่ ประเด็นแรก คือ ผลกระทบ ทางด้าน ร่างกาย จะต้องได้รับบาดเจ็บ ไม่มากก็น้อย ถ้าเป็นมวยไทย ซึ่งใช้อาวุธทั้ง หมัด ศอก และเข่า เวลาขึ้นชก เด็กมีโอกาส จะได้รับบาดเจ็บ ตั้งแต่ศีรษะ จนถึงลำตัว ผู้เชี่ยวชาญ ทางการแพทย์ หลายท่าน ยืนยันว่า สมองของเด็ก อายุไม่เกิน ๑๒ ปี ยังโตไม่เต็มที่ หากถูกชก กระแทก หรือสะบัด อย่างแรง จะเกิดอาการ ช้ำใน ไม่ต่างจาก อุบัติเหตุรุนแรง ทางรถยนต์ เด็ก อาจเกิดอาการ ชา หมดสติ หรือเสียชีวิตได้เฉียบพลัน หรือถ้าเด็ก มีอาการบาดเจ็บ แต่ละครั้ง ไม่รุนแรง แต่ต้องชกมวย อย่างต่อเนื่อง อาการบาดเจ็บ ในสมอง จะสะสม จนกระทั่ง เด็กไม่มีสมาธิ ในการเรียน ความจำไม่ดี นอกจากนี้ การชกมวย อาจทำให้เกิดอาการ บาดเจ็บ บริเวณช่องท้อง ตาบอด จนกลายเป็น คนพิการ.....
ประเด็น ที่ ๒ ผลกระทบ ทางด้านจิตใจ เพราะเด็กที่ชกมวย มักเกิดความกลัว ความวิตกกังวล และความเครียด เป็นประจำ เด็กเหล่านี้ จะคุ้นชินกับ ความรุนแรง กลายเป็น เด็กก้าวร้าว และนิยม ใช้ความรุนแรง ในการแก้ปัญหา
รวม ทั้ง การอนุญาตให้เด็กชกมวยเป็นอาชีพนี้ ขัดกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กสหประชาชาติ และขัดกับ รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน ซึ่งห้ามมิให้ เด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี ทำงาน และมิให้ เด็กอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี ทำงาน ที่เสี่ยงต่อ อันตราย ความรุนแรง และการปฏิบัติ อย่างไม่เป็นธรรม ถ้าอนุญาต ให้เด็ก อายุต่ำกว่า ๑๕ ปี ชกมวย แสดงว่า ผิดกฎหมาย
สำนัก งานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงจัดรูปแบบเป็นเวทีสาธารณะ มีการนำเสนอข้อมูลอภิปรายโดยวิทยากร ๕ ท่าน ผู้ดำเนินรายการ ๑ ท่าน มีการเปิดเวทีให้ผู้เข้าร่วมรับฟัง แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ และจัดทำสรุปข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะเพื่อเสนอให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
กำหนดการจัดสัมมนา เรื่อง "สิทธิหนูอยู่ไหน ? กรณีเด็กชกมวย"
วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
ณ ห้องเสวนา ชั้น ๖ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารบี (ด้านทิศใต้) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
*********************************
เวลา ๑๒.๓๐ – ๑๓.๓๐ น.
ลงทะเบียน
เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๓.๕๕ น.
กล่าวเปิดเวทีสาธารณะและแจ้งวัตถุประสงค์
โดย นางวิสา เบ็ญจมะโน
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ประธานอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ
และความเสมอภาคของบุคคล
เวลา ๑๓.๕๕ – ๑๖.๔๕ น.
เวทีสาธารณะ
เรื่อง สิทธิหนูอยู่ไหน กรณีเด็กชกมวย โดย
- นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์
ผอ. ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก
- นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ *
- นายสมชาย เจริญอำนวยสุข
ผอ.สำนักงานสวัสดิภาพที่พักเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส
- นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย*
- เด็กชายสมเจตน์ ดจันทรา เด็กที่ชกมวยตามภาพข่าว*
ดำเนินรายการโดย
- อนุกรรมการสื่อสารสาธารณะเพื่อสิทธิมนุษยชน
เวลา ๑๖.๕๐ น.
กล่าวปิดเวทีสาธารณะ
โดย นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ประธานอนุกรรมการสื่อสารสาธารณะเพื่อสิทธิมนุษยชน
หมายเหตุ
ถ่ายทอดสดทางเครือข่ายวิทยุชุมชนและวิทยุอินเทอร์เน็ต ๒๐ สถานีทั่วประเทศ
บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มในห้องประชุม
* อยู่ระหว่างการทาบทาม
วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
Flash : ขึ้นเงินเดือนข้าราชการครูทั่วประเทศเฉลี่ย 8% มีผลมีนาคม
วันที่ : 17/02/2011
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก : ขึ้นเงินเดือนข้าราชการครูทั่วประเทศเฉลี่ย 8% มีผลมีนาคม | ||
วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
มาฆบูชาภาวนา
จาก: Jivita Sikkha <jivitasikkha@gmail.com>
วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554, 15:53
หัวเรื่อง: มาฆบูชาภาวนา
ถึง:
Date: 2011/2/14
Subject: มาฆบูชาภาวนา
To:
วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2554, 15:34
หัวเรื่อง: มาฆบูชาภาวนา
ถึง:
(For English summary please see below.)
มาฆบูชาภาวนา
ภาวนาเพื่อบ่มเพาะความกรุณา ฝึกโยคะเพื่อสุขภาพและสมาธิ
ณ ศูนย์ขทิรวัน หัวหิน
…ขอเชิญกัลยาณมิตรบำเพ็ญบุญกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ด้วยการปฏิบัติบูชาพระแม่ตารา พระโพธิสัตว์แห่งความกรุณา สวดมนตราประจำพระองค์ร่วมกัน 100,000 จบ ละอกุศลกรรมทางกาย วาจา ใจ 10 ประการ (ด้วยการถือศีลทิเบต 10) ปฏิบัติโยคะภาวนาเพื่อสุขภาพและสมาธิ และร่วมเวียนเทียนถวายดวงประทีป 505 ดวง ณ บริเวณก่อสร้างพระศานติตารามหาสถูป เจดีย์แบบทิเบตซึ่งสร้างขึ้นโดยเน้น "โพธิจิต" จิตอธิษฐานเพื่อให้สัตว์โลกเข้าถึงการตรัสรู้
ความเป็นมา
วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งในพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดง "โอวาทปาติโมกข์" อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา และเป็นวันมหัศจรรย์เนื่องจากพระอรหันต์ 1,250 รูปมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
มูลนิธิพันดาราได้จัดงานมาฆบูชาภาวนาเป็นประจำทุกปีโดยเน้นการปฏิบัติเพื่อ บ่มเพาะคุณธรรมเรื่องความเมตตากรุณาถวายเป็นพุทธบูชา ณ ศูนย์ขทิรวัน ซึ่งเป็นธรรมาศรมในพระพุทธศาสนาอุทิศแด่พระโพธิสัตว์ตารา ผู้เป็นบุคลาธิษฐานแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้า ในปีนี้ทางมูลนิธินอกจากจะจัดให้มีการปฏิบัติบูชาพระแม่ตาราและการเวียน เทียนใหญ่ที่บริเวณพระมหาสถูปแล้ว ยังจัดให้มีการสอนโยคะเพื่อการภาวนาอีกด้วย
อาหาร-ที่พัก
ทางมูลนิธิจะให้บริการอาหารมังสะวิรัติ ผลไม้ อาหารว่าง และเครื่องดื่มร้อน/เย็น ตลอดช่วงภาวนา และจะจัดที่พักเป็นเต้นท์เดี่ยว เต้นท์รวม และศาลาซึ่งมีมุ้งลวดกันยุง ที่ศูนย์มีห้องอาบน้ำ ห้องน้ำอย่างดี และศาลาพักผ่อนในตอนกลางวันไว้บริการ
การเดินทางไปศูนย์ขทิรวัน
- เดินทางทางรถตู้ที่มูลนิธิจัดให้ ค่ารถไปกลับ 500 บาท
- ไปโดยรถยนต์ส่วนตัว (สามารถขอรับแผนที่ได้ทางอีเมล์)
- เดินทางโดยรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยไปลงที่หัวหิน จากสถานีรถตู้ นั่งรถสองแถวไปลงหน้าศูนย์ (แต่เนื่องจากกิจกรรมนี้เริ่มช่วงเย็น ตั้งแต่บ่ายสามโมง จะไม่มีรถสองแถวให้บริการ)
การลงทะเบียน
ผู้สนใจกรุณาลงทะเบียนที่ 1000tara@gmail.com โทร 0878299387
บริจาคร่วมกิจกรรม 500-2000 บาทเพื่อเป็นค่าจ้างแม่ครัวและผู้ช่วย ค่าวัสดุอาหาร ค่าแรงคนงาน และค่าสาธารณูปโภค
อาจารย์ผู้นำภาวนา
รศ.ดร. กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมทิเบต ผู้จาริกแสวงบุญด้วยการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ในทิเบต อาจารย์สอนธรรมะโดยได้รับมอบคำสอนจากพระอาจารย์ในหลายนิกายในพุทธวัชรยาน
อาจารย์ผู้สอนโยคะ: ครูดล (ธนวัช เกตุวิมุติ) จากเครือข่ายชีวิตสิกขา
กำหนดการ
วันที่หนึ่ง : พฤหัสบดีที่ 17 กพ.
16.00 น. เดินทางถึงศูนย์ขทิรวัน รับคู่มือปฏิบัติ เตรียมภาวนา
17.00 น. รับประทานอาหารเย็น
19.00 น. กิจกรรมปรับทัศนคติ "เริ่มต้นที่จุดจบ"
20.00 น. โยคะภาวนา
21.00 น. นั่งสมาธิ
22.00 น. เข้านอน
วันที่สอง : ศุกร์ที่ 18 กพ. (วันมาฆบูชา)
4.00 น. ตื่นนอน ดื่มน้ำปานะ
4.30 น. นั่งสมาธิ
5.30 น. ทำวัตรเช้า กราบอัษฎางคประดิษฐ์
6.00 น. เดินทำสมาธิ
7.00 น. โยคะภาวนา
8.00 น. รับประทานอาหารเช้า
9.00 น. โยคะภาวนา
10.00 น. ฟังบรรยายเรื่อง "การบ่มเพาะความกรุณา"
11.00 น. พิธีรับศีล 10 ทิเบตและอ่านพระสูตรร่วมกัน
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น. สวดมนตรา
15.00 น. โยคะภาวนา
15.30 น. ดื่มน้ำปานะ
16.00 น. นั่งสมาธิ
17.30 น. รับประทานอาหารเย็น
18.30 น. ทำวัตรเย็น เดินเวียนเทียน ถวายดวงประทีปที่บริเวณก่อสร้างพระมหาสถูป
20.00 น. โยคะภาวนา
21.00 น. นั่งสมาธิ
22.00 น. เข้านอน
วันที่สาม : เสาร์ที่ 19 กพ.
4.00 น. ตื่นนอน ดื่มปานะ
4.30 น. นั่งสมาธิ
5.30 น. ทำวัตรเช้า กราบอัษฎางคประดิษฐ์
6.00 น. เดินทำสมาธิ
7.00 น. โยคะภาวนา
8.00 น. รับประทานอาหารเช้า
9.00 น. ปฏิบัติตามบทสาธนะและสวดมนตรา
10.30 น. โยคะภาวนา
11.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น. สวดมนตรา
14.30 น. โยคะภาวนา
15.30 น. ดื่มน้ำปานะ
16.00 น. สวดมนตรา
17.30 น. รับประทานอาหารเย็น
19.00 น. ทำวัตรเย็น
19.30 น. โยคะภาวนา
20.30 น. พิธีอุทิศแก่ผู้ล่วงลับและสวดมนตราดับทุกข์โศกของสัตว์โลก
21.00 น. นั่งสมาธิ
22.00 น. เข้านอน
วันที่สี่ : อาทิตย์ที่ 20 กพ.
4.00 น. ตื่นนอน
4.30 น. นั่งสมาธิ
5.30 น. ทำวัตรเช้า กราบอัษฎางคประดิษฐ์
6.00 น. เดินทำสมาธิ
7.00 น. โยคะภาวนา
7.30 น. รับประทานอาหารเช้า
9.00 น. ปฏิบัติตามบทสาธนะ
9.30 น. สวดมนตรา
10.30 น. โยคะภาวนา
11.30 น. แบ่งปันประสบการณ์
12.30 น. พิธีลาศีล อุทิศบุญกุศลร่วมกัน
12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน
14.00 น. เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
การปฏิบัติเพื่อบ่มเพาะความกรุณา
หัวใจหลักของการปฏิบัติธรรมคือการบ่มเพาะปัญญาและกรุณาซึ่งเป็นคุณงามความดี ในจิตใจของเรา ปราศจากคุณธรรมทั้งสอง เราไม่สามารถเข้าถึงความสุขที่ยั่งยืนตรัสรู้ธรรมและช่วยเหลือสัตว์โลกได้
ในพุทธวัชรยานมีหลายวิธีในการบ่มเพาะความกรุณา วิธีหนึ่งคือการปฏิบัติบูชาพระโพธิสัตว์ตารา พระองค์ทรงตั้งปณิธานที่จะดำรงอยู่ในสังสารวัฏจนกว่าสัตว์โลกชีวิตสุดท้ายจะ เข้าถึงการหลุดพ้น
ในการบ่มเพาะความกรุณา เราจะฝึกจิตของเราให้เป็นจิตแบบเดียวกับพระองค์ ด้วยการนั่งสมาธิ สวดมนตร์ และบริกรรมมนตราแห่งความกรุณาซึ่งนอกจากจะทำให้จิตสงบ ผ่องใส มีสันติสุขแล้ว ยังให้อานิสงส์ทั้งทางโลกและทางธรรม
โยคะ กับการภาวนา
ศาสตร์เพื่อการฝึกฝนให้จิตเป็นสมาธิ เพื่อความสุขอันแท้จริง จิตสงบได้แม้กายยังคงเคลื่อนไหว ทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาวะของร่างกาย พัฒนาระบบย่อยอาหารและขับถ่าย เสริมสร้างกล้ามเนื้อชั้นในให้แข็งแรง กระตุ้นการไหลเวียนของกระแสโลหิต จัดปรับแนวกระดูกสันหลังให้สมดุล ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายจากการฝึกโยคะที่ถูกวิธีตามตำราโบราณ
หัวข้อในการฝึกปฏิบัติ :
·เทคนิคการบริหารข้อต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อการเตรียมความพร้อม
·อาสนะ เพื่อพัฒนาความสมดุลของร่างกาย (Homeostasis และ Muscle Tone)
·เทคนิคการผ่อนคลายอย่างลึก สำหรับผู้มีปัญหานอนหลับยาก หรือหลับไม่สนิท
·เทคนิคการหายใจเพื่อขจัด ความเครียดและเอื้อให้จิตเป็นสมาธิได้ง่ายและรวดเร็วขี้น
·โยคะกับการภาวนา ฝึกโยคะด้วยความพยายามที่น้อยที่สุด เพื่อรับผลแห่งการภาวนาได้มากที่สุด
--
--
ดล
ธนวัชร์ เกตน์วิมุต
ชีวิตสิกขา : เครือข่ายเพื่อการเรียนรู้และเข้าใจชีวิต
www.jivit.net
159/70 ซ.วิภาวดีรังสิต 62 ถ.วิภาวดีรังสิต
หลักสี่ กทม. 10210
โทรศัพท์ 089-678-1669, 089-899-0094
แฟกซ์ 02-900-5429
--
http://jivit.net
ร่วมเป็นแฟนคลับกับชีวิตสิกขาลัย ในเครือข่ายชีวิตสิกขาได้ที่
http://www.facebook.com/pages/Jivita-Sikkhalay-Club/324767881811?v=wall
วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
หมอชาวบ้านฉบับวันที่ 10/02/2011
จาก: หมอชาวบ้าน <webmaster@doctor.or.th>
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554, 11:28
หัวเรื่อง: หมอชาวบ้านฉบับวันที่ 10/02/2011
ถึง:
หมอชาวบ้าน | e-newsletters ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2554
|
วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดี ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 13.30 น. – 16.00 น. ณ. ห้อง Studio R6 โรงแรมเรอเนซองส์บางกอก ราชประสงค์
| |||